วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ระบบงานคลังสินค้า

แนวคิดเกี่ยวกับ คลังสินค้า    
1. สินค้าคงคลัง หมายถึง สินค้าหรือวัตถุที่เก็บรักษาไว้เพื่อประโยชน์
       
ต่อไปในอนาคต
2.ประเภทของสินค้าคงคลัง แบ่งตามลักษณะสินค้าได้ 3 ประเภท คือ
  2.1
วัตถุดิบ (raw materials)
2.2
สินค้าระหว่างผลิต (work-in-proces)
2.3
สินค้าสำเร็จรูป (finihe goods)
3. ลักษณะและความสำคัญของระบบสินค้าคงคลัง มีดังนี้
    3.1
มีการกำหนดหน้าที่และแผนการดำเนินการต่าง ๆ
    3.2
มีการกำหนดแผนการดำเนินงานด้านการบัญชีสินค้าคงคลัง
    3.3
มีการควบคุมสินค้าคงคลังที่สอดคล้องกับความรับผิดชอบ
         
และนโยบายของผู้บริหารแต่ละระดับ
    3.4
มีความแตกต่างระหว่างสินค้าคงคลังที่บันทึกไว้กับสินค้าคงคลัง
         
ที่มีอยู่จริงน้อยที่สุด
    3.5
มีข้อมูลสินค้าคงคลังที่สามารถวินิจฉัยสั่งการด้านธุรกิจในเวลาที่ต้องการ
4.  องค์ประกอบในการดำเนินการระบบสินค้าคงคลัง
4.1
การจัดการสินค้าคงคลัง
4.2
ระบบคอมพิวเตอร์
4.3
ความถูกต้องของข้อมูล
4.4
การสนับสนุนจากผู้บริหาร
4.5
ความรู้ของผู้ใช้ระบบสินค้าคงคลัง
การจัดระบบสินค้าคงคลังการดำเนินงานในระบบสินค้าคงคลังแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ - ระบบบัญชีสินค้าคงคลัง- การจัดการสินค้าคงคลัง
1. ระบบบัญชีสินค้าคงคลังประกอบด้วย
       1.1
การรับสินค้าเข้าสู่ระบบ
       1.2
การเบิกสินค้าออกจากระบบ
       1.3
การคืนสินค้า
       1.4
คลังสินค้า โดยในคลังสินค้าจะมีการปฏิบัติดังนี้
     1)
การจัดให้มีปริมาณสินค้าให้พอเพียงกับความต้องการ
     2)
การจัดทำข้อมูลรายงานสินค้าคงคลังต่อผู้บริหาร
     3)
การดูแลเก็บรักษาและขนย้ายสินค้า
     4)
การตรวจสอบสินค้าที่มีอยู่ในคลังสินค้า
2. การจัดการสินค้าคงคลัง
     1.
 การจัดการสินค้าคงคลัง หมายถึง การดูแลและการจัดเก็บสินค้าคงคลังให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมไปจนถึงการขนส่งทั้งภายในและภายนอกสถานที่
     2.
 ขั้นตอนของการจัดการสินค้าคงคลัง
         2.1
การวางแผนสินค้าคงคลังหมายถึงการกำหนด
              
วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดการสินค้าคงคลัง
         2.2
การควบคุมสินค้าคงคลัง หมายถึง การตรวจสอบ
              
วิธีการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
3. การจัดการปริมาณสินค้าคงคลัง มีการจัดการดังนี้
    3.1
กำหนดประเภทสินค้าที่จัดเก็บในคลังสิตค้า
    3.2
การวัดระดับปริมาณสินค้าในคลังสินค้า
    3.3
การเปรียบเทียบและประเมินผล
    3.4
การหาวิธีแก้ไข
4.
 การควบคุมประเภทสินค้า
    4.1
ความจำเป็นในการควบคุมประเภทของสินค้าคงคลัง
    4.2
การใช้วิธีวิเคราะห์เอบีซีในการควบคุมประเภทของสินค้า
         
คงคลัง
     5. การกำหนดปริมาณสั่งซื้อ อาศัยปัจจัยในด้านต้นทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง 2 ประเภท คือ ต้นทุนในการสั่งซื้อ และต้นทุนในการจัดการสินค้าคงคลัง
     6.
 การกำหนดจุดสั่งซื้อใหม่ สามารถกำหนดได้จาก         เวลารอคอย และอัตราการใช้สินค้าเฉลี่ยต่อวัน
     7.
การควบคุมสินค้าคงคลังมีประโยชน์ได้หลายประการ คือ   ลดต้นทุนป้องกันการเก็บสินค้านานแล้วเสื่อมคุณภาพ                ลดต้นทุนในการเก็บรักษา ป้องกันการทุจริต                               การผลิตเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ มีสินค้าเสนอขายลูกค้าตลอดเวลา

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสินค้าคงคลัง
1. การจัดเตรียมข้อมูลพื้นฐาน และการควบคุมข้อมูล
   
ที่เกี่ยวกับงานสินค้าคงคลังมีดังต่อไปนี้
    1.1
การเตรียมข้อมูลนำเข้าและการตรวจสอบและลงรหัส
    1.2
การตรวจสอบเส้นทางเคลื่อนที่ของข้อมูล
    1.3
การควบคุมข้อผิดพลาดในการดำเนินการ
2.
การควบคุมสินค้าเข้าออก
3.
การเชื่อมโยงกับระบบต่าง ๆ ภายในองค์การ
4.
การเชื่อมโยงกับระบบภายนอกองค์การ
5. การตัดสินใจในระดับกลยุทธ์
6.
ประโยชน์ของการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดทำ
    
ระบบสินค้าคงคลัง
     6.1
ประโยชน์ทางด้านการปฏิบัติงาน
     6.2
ประโยชน์ทางด้านการบริหารงาน

การควบคุมสินค้าคงคลังโดยใช้คอมพิวเตอร์
1. การกำหนดกระบวนการ
    1.1 การรับสินค้าเข้าคลังสินค้า
    1.2
การจ่ายสินค้าออกจากคลังสินค้า
    1.3
การวิเคราะห์ข้อมูลสินค้าคงคลัง
    1.4
การออกรายงาน
    1.5
ลูกค้าสัมพันธ์
    1.6
การเชื่อมโยงกับระบบอื่นในระบบสินค้าคงคลัง
2. แฟ้มข้อมูลในระบบสินค้าคงคลัง
     2.1 แฟ้มข้อมูลทะเบียนสินค้าเป็นแฟ้มข้อมูลที่กำหนดรายละเอียด
           
เกี่ยวกับสินค้าทั้งหมดของกิจการ
     2.2
แฟ้มข้อมูลลูกค้าเป็นแฟ้มข้อมูลที่เก็บรักษารายละเอียดลูกค้า
     2.3
แฟ้มข้อมูลคลังสินค้า เป็นแฟ้มข้อมูลที่เก็บรายละเอียด
          
ของคลังสินค้าแต่ละแห่ง
     2.4
แฟ้มข้อมูลสั่งซื้อสินค้า เป็นแฟ้มข้อมูลที่เก็บรายละเอียด
     2.5
แฟ้มข้อมูลรับ-จ่ายสินค้า เป็นแฟ้มข้อมูลแสดงรายละเอียด
          
ประเภทรายการสินค้า
     2.6
แฟ้มข้อมูลรหัสต่าง ๆ เป็นแฟ้มข้อมูลแสดงรายละเอียด
          
ประเภทรายการสินค้า
3. รายงานในระบบสินค้าคงคลัง
     3.1 รายงานเกี่ยวกับสินค้าเป็นรายงานที่นำมาใช้ในการ
          
ตรวจสอบรายการค้าที่เกิดขึ้น
     3.2
รายงานการเคลื่อนไหวสินค้า
     3.3
รายงานปริมาณสินค้า
     3.4
รายงานเกี่ยวกับลูกค้า
     3.5
รายงานการวิเคราะห์
ตัีวอย่างการใช้คอมพิวเตอร์ในงานสินค้าคงคลัง
1. ลักษณะของธุรกิจค้าปลีกมีรูปแบบการค้า 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
    1.1
การค้าปลีกขนาดย่อม
    1.2
การค้าปลีกขนาดใหญ่
2.
กิจกรรมของงานสินค้าคงคลังในธุรกิจค้าปลีก
3.  ส่วนประกอบของโปรแกรมระบบสินค้าคงคลังในธุรกิจค้าปลีก
     3.1
การสร้างข้อมูลสินค้าเป็นการเตรียมข้อมูลของสินค้า
          
เข้าสู่ระบบสินค้าคงคลังโดยการกำหนดรหัสของสินค้า
     3.2
การจำหน่ายสินค้าเป็นการออกบิลขายสินค้าให้แก่ลูกค้า
          
และตัดสต๊อกอัตโนมัติ
     3.3
การสั่งซื้อและรับสินค้าเป็นการบันทึกการรับ/สั่งซื้อสินค้าเข้าคลังสินค้า
     3.4
การตรวจสอบต้นทุนเป็นการคิดต้นทุนของสินค้าแต่ละชนิด
     3.5
การปิดงวดสินค้าเป็นการตรวจนับยอดสินค้าคงคลังในสต๊อก  
     3.6
การวิเคราะห์ข้อมูลสินค้าเป็นการทำรายงานการวิเคราะห์ในรูปแบบต่างๆ
4. การพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในระบบสินค้าคงคลัง
   
ของธุรกิจค้าปลีกทำให้สามารถเชื่อมโยงคลังสินค้าต่าง ๆ ได้
5.
ระบบอินเทอร์เน็ตกับงานสินค้าคงคลังในธุรกิจค้าปลีก โดย
    5.1
การควบคุมปริมาณสินค้าในคลังสินค้า
    5.2
การจัดซื้อสินค้าเข้าคลัง

ตัวอย่างงานสินค้าคงคลังในธุรกิจการผลิต
1. ลักษณะของสินค้าคงคลังในธุรกิจการผลิตแบ่งออกเป็น
     1) วัตถุดิบซึ่งเป็นส่วนประกอบในการทำผลิตภัณฑ์
     2)
ชิ้นส่วนที่ต้องซื้อจากบริษัทอื่นเพื่อนำมาประกอบ
         
ในการทำผลิตภัณฑ์
     3)
ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิต
     4)
ผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จแล้ว
     5)
วัสดุที่ใช้ในการสนับสนุนการดำเนินการผลิตต่างๆ
     6) 
เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ  ที่ใช้สำหรับกระบวนการผลิต
2. กิจกรรมของสินค้าคงคลังในธุรกิจการผลิต โดยใช้คอมพิวเตอร์
   
สามารถดำเนินการดังนี้คือ
    2.1 
เก็บข้อมูลลักษณะของวัตถุดิบ
    2.2 
เก็บข้อมูลที่ใช้ในการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบ
    2.3 
เก็บข้อมูลบัญชีวัตถุดิบ
    2.4 
ควบคุมปริมาณวัตถุดิบสำหรับรายการวัตถุดิบสำรองในคลัง
    2.5 
สอบถามข้อมูลวัตถุดิบที่จัดเก็บตามสถานะต่างๆ 
    2.6 
จองวัตถุดิบให้เป็นไปตามการวางแผนความต้องการวัตถุดิบ
    2.7 
จัดทำข้อมูลที่ได้จากการประมวลผล
    2.8 
จัดทำข้อมูลเพื่อใช้ในการพิจารณาดำเนินการ
    2.9 
ทำการตรวจนับวัตถุดิบ
    2.10
เชื่อมโยงการบันทึกข้อมูลรายการรับจ่าย
3. การดำเนินกรรมวิธีข้อมูลวัตถุดิบโดยคอมพิวเตอร์
   แบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้
   3.1 การรับวัตถุดิบเข้าคลัง
    3.2
การปรับปรุงและประมวลผลข้อมูล
    3.3
รายงานสรุปงานยอดวัตถุดิบ
4. ส่วนประกอบของโปรแกรมระบบสินค้าคงคลัง
   ในธุรกิจการผลิต
     4.1
การสร้าง/ปรับปรุงข้อมูลวัตถุดิบ
     4.2
การเบิกวัตถุดิบจากคลังสินค้า
     4.3
การรับวัตถุดิบเข้าคลังสินค้า
     4.4
การตรวจนับวัตถุดิบ
     4.5
การวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณวัตถุดิบ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น